top of page

Felix Mendelssohn (1809-1847)

db704ae2a96d4a93cae3eca7a5021ad8.jpg

 เฟลิกซ์ เมนเดลโซน (Felix Mendelssohn) เป็นนักประพันธ์เพลงชาวเยอรมัน เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1809

และเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1847 เขาเกิดมาในกองเงินกองทอง  มีชีวิตดำเนินไปอย่างราบรื่น สะดวกสบายและอุดมสมบูรณ์  ไม่เคยรู้จักกับความอดอยากยากจน โดยที่บิดาเป็นคนร่ำรวยมั่งคั่งและมีอาชีพเป็นนายธนาคารใหญ่  แห่งเมืองแฮมเบอร์ก เมนเดลโซนสนใจดนตรีตั้งแต่เด็ก สามารถออกแสดงคอนเสิร์ตเปียโนได้เมื่ออายุ 9 ขวบ และประพันธ์เพลงได้เมื่ออายุ 11 ปี  แนวทางการประพันธ์เพลงของเมนเดลโซนจะผสมผสานรูปแบบของดนตรีคลาสสิกกับโรแมนติก ผลงานที่มีชื่อเสียงได้แก่ Overture to A Midsummer Night's Dream เป็นเพลงที่เขาประพันธ์ประกอบการแสดงอุปรากรซึ่งเป็นเรื่องที่แต่งโดยกวีเอกของโลก วิลเลียม เชคสเปียร์  เขาได้ประพันธ์เพลงนี้เมื่ออายุได้ 17 ปี เพลง Wedding March เป็นเพลงที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับการแต่งงาน และยังใช้ในพิธีแต่งงานจนถึงปัจจุบันนี้ ซิมโฟนีจำนวน 5 บท ที่มีชื่อเสียงและยังนิยมบรรเลงอยู่มี 3 บท คือ ซิมโฟนี หมายเลข 3 "Scottish Symphony"  ซิมโฟนีหมายเลข 4 "Italian Symphony" ซิมโฟนีหมายเลข 5 "The Reformation Symphony" บทเพลง Violin Concerto in E minor, Op. 64 ซึ่งเป็นผลงานยอดนิยมชิ้นหนึ่งของโลก ดนตรีแชมเบอร์จำนวนหนึ่ง เพลงสั้น ๆสำหรับเปียโนหลายชุดในชื่อของ Songs Without Words  และเพลงร้องอีกจำนวนมาก

 เมนเดลโซนเป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้เพลงของบาค (J.S.Bach) กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง หลังจาก

ที่บทเพลงของบาคได้ถูกลืมไปแล้วเมื่อเขาเสียชีวิตลงในปี ค.ศ. 1750

Sonata for Violin and Piano No.3 in F Major 

เพลงนี้แต่งขึ้นในปี ค.ศ. 1838 แต่ว่ายังไม่ได้เล่นต่อหน้าสาธารณะชนในขณะที่เมนเดลโซนยังมีชีวิตอยู่ จนกระทั่งปี

ค.ศ. 1953 นักไวโอลิน Yehudi Menuhin ได้นำมาเรียบเรียงแล้วเล่นต่อหน้าสาธารณะชน

เมนเดลโซนได้แต่งเพลงนี้ขึ้นมาในปี ค.ศ. 1983 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่เค้าแต่งเพลง Violin Concerto in E minor โดยในวันที่

15 มิถุนายน ค.ศ. 1838 เขาได้แต่งเพลงนี้เสร็จแต่เป็นเพียงแค่ฉบับร่างและเขาปฏิเสธชิ้นงานนี้ให้เป็น wretched sonata จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1839 เขาได้มาทบทวนแก้ไขเพลงนี้ในท่อนแรก แต่เพลงนี้ก็คงยังไม่สมบูรณ์จนกระทั่งเขาได้เสียชีวิตในปี ค.ศ. 1847 จนเมื่อปี ค.ศ. 1953 นักไวโอลิน Yehudi Menuhin นำเพลงนี้มาแก้ไขโดยยึดตามฉบับที่เมนเดลโซนได้แก้ไขท่อนแรกไว้ 

Bibliography

bottom of page